เทียบสเปค ตัว Top ของ Eco-car ทั้งหมดที่มีขายในไทย อัพเดต ล่าสุด !!!
สีเขียวคือ สเปคดีกว่าคู่แข่ง
สีฟ้าคือ สเปคเทียบเท่ากันทุกรุ่น
สีเหลืองคือ สเปคด้อยกว่าคู่แข่ง
ในที่นี้เทียบเฉพาะรุ่นท๊อปของแต่ละยี่ห้อนะครับ (ไม่นับรวม March Autech ซึ่งเพิ่มแค่ชุดแต่ง)
ลองดูว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ
อันนี้ เทียบสี มิราจ กับ สวิฟท์ มาให้ดูนะครับ 
เครดิต – -ข้อมูลจาก WebBoard headlight mag.คอม
ราคา ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ ออกแล้ว !!!!
สดๆร้อนๆ จากงานเปิดตัว Suzuki Swift ใหม่ วันนี้ ราคา Swift ใหม่ ที่จะจำหน่ายในไทย คือ
รุ่น A/T GA ราคา 469,000 สีขาวเพิ่ม 5,000
รายละเอียด เบาะผ้า / กุญแจรีโมท / แอร์หมุนธรรมดา / ระบบเบรคABS+EBD / ล้อกระทะ15พร้อมฝาครอบล้อ / กระจกข้างสีดำ / มือจับสีดำ / ระบบกุญแจนิรภัย Immobiliser / ระบบสัญญาณเตือนภัย / ไม่มีวิทยุ / ไม่มีวัดรอบที่เรือนไมล์/มียางอะไหล่
รุ่น A/T GL ราคา 507,000 สีขาวเพิ่ม 5,000
รายละเอียด เบาะผ้า / กุญแจKeyless Star / ปุ่มกดPush Star / วิทยุ CD MP3 ต่อ USB / แอร์หมุนธรรมดา / ระบบเบรค ABS+EBD / ถุงลมนิรภัย1ข้างคนขับ / ล้อกระทะ15พร้อมฝาครอบล้อ / กระจกข้างพับไฟฟ้าพร้อมปรับไฟฟ้า / พวงมาลัยปรับระดับ4ทิศทาง / ระบบกุญแจนิรภัย Immobiliser / ระบบสัญญาณเตือนภัย / อุปกรณ์เปลี่ยนยางฉุกเฉิน
รุ่น A/T GLX ราคา 559,000 สีขาวเพิ่ม 5,000
รายละเอียด เบาะผ้า / กุญแจKeyless Star / ปุ่มกดPush Star / วิทยุ CD MP3 ต่อ USB / แอร์อัติโนมัติ / ระบบเบรค ABS+EBD / ถุงลมนิรภัยคู่หน้า / ล้ออัลลอย16 / กระจกข้างพับไฟฟ้าพร้อมปรับไฟฟ้า / ไฟเลี้ยวกระจกมองข้าง / พวงมาลัยหุ้มหนัง / ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย / ไฟตัดหมอกหน้า / พวงมาลัยปรับระดับ4ทิศทาง / ระบบกุญแจนิรภัย Immobiliser / ระบบสัญญาณเตือนภัย / อุปกรณ์เปลี่ยนยางฉุกเฉิน
***สีมีทั้งหมด 7 สี***
ZTW Ablaze Red Pearl 3 (แดง)
ZTV Boost Blue Pearl Metallic 2 (น้ำเงิน)
ZTZ Sunlight Copper Pearl Metallic 3 (ส้ม)
ZTT Super Black Pearl 2 (ดำ)
ZTR Snow White Pearl 2 (ขาว)
ZTS Star Silver Metallic 4 (บอนซ์เงิน)
ZTU Mineral Gray Metallic 2 (เทาเข้ม)
เครื่องยนต์ 1.25 L (1,242 cc)
แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาวล์
กำลังสูงสุด 67kw /6,000 rpm.
แรงบิดสูงสุด 118 N-m /4,800 rpm.
ความจุถังน้ำมัน 42 ลิตร
ใช้น้ำมัน แก๊สโซฮอล์ 91-95 และ E20
*การทดสอบอัตราการบริโภคน้ำมัน เชื้อเพลิงตามมาตรฐาน ยุโรป สามารถทำได้ 20 กม./ ลิตร
ความยาว 3,850 มม.
ความกว้าง 1,695 มม.
ความสูง 1,510 มม.
รายชื่อ รถใหม่ เปิดตัว เดือนมีนาคม 2555 โดย OFF KlickOFF
สวัสดีครับเพื่อนๆ กลับมาพบกับอ๊อฟ กันอีกครั้งนะครับ ช่วงนี้ กระแสความฮอตของตลาดรถยนตืบ้านเรา ร้อนแรงไม่แพ้อากาศในกรุงเทพเลย ร้อนจริงๆ วันนี้ อ๊อฟเลย รวบรวมข้อมูลคร่าวๆ ของรถที่จะเปิดตัวกันในเดือนมีนาคมนี้ และ สามารถพบเจอ คันจริงๆ ได้ที่งานมอเตอร์โชว์ ปลายเดือนนี้นะครับ จะมี คันไหนโดนใจบ้าง ไปดูกันเลยครับ
คันแรก เปิดตัว 13 มีนาคม กับ ฮุนได เอลันตร้า ใหม่ (All-New Hyundai Elantra)
คอมแพกต์ซีดานรูปทรงสปอร์ตโฉบเฉี่ยว พร้อมเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 150 แรงม้า มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และอัตโนมัติ 6 สปีด เคาะราคา 8.99 แสนบาท – 1.198 ล้านบาท “ฮุนได เอลันตร้า ใหม่” แบ่งเป็น3 รุ่นย่อย คือ 1.8E (เกียร์แมนนวล 6 สปีด) ราคา 899,000 บาท รุ่น 1.8S (มาตรฐานเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) 1,088,000 บาท และ 1.8G (รุ่นสูงสุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) 1,198,000 บาท โดยราคาดังกล่าวครอบคลุมการรับประคุณภาพ 4 ปี หรือ 120,000 กม. และฟรีบำรุงรักษา 4 ปี หรือ 80,000 กม. (เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และน้ำมันเกียร์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย) ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 4 ปี
คันที่ 2 เปิดตัวไปแล้วกับ โตโยต้า คัมรี ใหม่
โดยคัมรีใหม่ มีขุมพลังให้เลือกได้ 3 แบบ คือ เครื่องยนต์ไฮบริด 2.5 ลิตร 118 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 77 แรงม้า ใช้ระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ อี-ซีวีที, เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 181 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 148 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ระบบช่วงล่างเป็นแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ โดยด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังเป็นแบบดูอัลลิงค์สตรัท ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์ทั้ง 4 ล้อ พร้อมติดตั้งระบบกระจายแรงเบรก
โตโยต้า คัมรีใหม่ มีให้เลือก 5 รุ่นด้วยกันคือ
รุ่น 2.5 แอล ไฮบริด เนวิเกเตอร์ ราคา 1.869 ล้านบาท
รุ่น 2.5 แอล ไฮบริด (ดีวีดี) ราคา 1.699 ล้านบาท
รุ่น 2.5 แอล ไฮบริด (ซีดี) ราคา 1.649 ล้านบาท
รุ่น 2.5 จี ราคา 1.449 ล้านบาท
รุ่น 2.0 จี ราคา 1.229 ล้านบาท
คันที่ 3 เปิดตัว วันที่ 19 มีนาคม นี้ กับ ฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Ti-VCT
Ford Fiesta 1.5 Ti-VCT แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย คือ Trend และ Sport มีทั้งตัวถังซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบค 5 ประตู โดย Fiesta 1.5 จะมาทำตลาดแทนที่ Fiesta 1.6 Ti-VCT ซึ่งจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน
Fiesta 1.5 Ti-VCT รุ่นซีดาน 4 ประตู มากับ สีดำ Black Mica, สีขาว Cool White, สีเงิน Highlight Silver, สีเทา Metropolitan Gray, สีทอง Sparkling Gold และ สีน้ำทะเล Phantom Blue
ส่วนรุ่นแฮทช์แบค 5 ประตู มีสีแดง True Red, สีน้ำเงิน Aurora Blue และ สีส้ม Chili Orange
ราคาจำหน่าย Fiesta 1.5 Ti-VCT
รุ่น Trend 644,000 บาท สำหรับรุ่น 4 ประตู และ 654,000 บาท สำหรับรุ่น 5 ประตู
ส่วน Fiesta 1.5 Ti-VCT รุ่น Sport 689,000 บาท สำหรับรุ่น 4 ประตู และ 699,000 บาท สำหรับรุ่น 5 ประตู
ทั้ง 2 รุ่น เป็นรถที่อยู่ในเกณฑ์นโยบายส่งเสริมการเป็นเจ้าของรถคันแรกของรัฐบาล ลดภาษีได้ 1 แสน ครับ
คันที่ 4 เปิดตัว 20 มีนาคมนี้ กับ มิตซูบิชิ มิราจ โดยได้ นิชคุณ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ครับ
สำหรับ มิตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC MIVEC 12 Valveรองรับทั้งเบนซิน 91 และ 95 แก๊สโซฮอล์ 91, 95 และ E20 โดยตั้งเป้าให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กิโลเมตรต่อลิตร มีสีให้เลือกหลากหลายมากถึง 8 สี ได้แก่ 1. สีขาวมุก White Pearl (ราคาเพิ่ม 5,000 บาท) 2. สีเหลือง Lemonade Yellow Metallic 3. สีเขียว Pop Green Metallic 4. สีแดง Red Metallic 5. สีฟ้า Cerulean Blue Mica 6. สีเทาดำ Eisen Gray Mica 7. สีดำ Pyreness Black Mica และ 8. สีเงิน Cool Silver
รุ่นรถราคา (บาท)
1.GLD Ltd. เกียร์อัตโนมัติ 546,000
2.GLS เกียร์อัตโนมัติ506,000
3.GLX เกียร์อัตโนมัติ460,000
4.GLX เกียร์ธรรมดา426,000
5.GL เกียร์ธรรมดา380,000
คันที่ 5 เปิดตัว วันที่ 21 มีนาคม นี้ กับ Chevrolet Trailblazer
รายละเอียด และ ราคา จำหน่าย รอ วันเปิดตัว นะครับ
คันที่ 6 เปิดตัว วันที่ 21 มีนาคม นี้เช่นกัน กับ “พรีอุส ซี” (Prius C) และ พรีอุส ใหม่” เป็นแบบไมเนอร์เชนจ์
รายละเอียด และ ราคา จำหน่าย รอ วันเปิดตัว นะครับ
คันที่ 7 เปิดตัว วันที่ 21 มีนาคม เช่นกัน กับ New Suziki SWIFT 1.2 ใหม่
รายละเอียด
คันที่ 8 เปิดตัว 26 มีนาคมนี้ กับ เชฟโรเลต โซนิค ครับ
รายละเอียด และ ราคา จำหน่าย รอ วันเปิดตัว นะครับ
นอกจากนี้ ยังมี รถเก่า ที่นำมาปรับออฟชั่นใหม่ ออกมาแข่งขันในตลาด ไม่ว่าจะเป็น
นิสสัน มาร์ช ใหม่
โตโยต้า วีออส ใหม่ รุ่นฉลอง 50 ปี โตโยต้า
ยังไง เพื่อนๆ ที่กำลัง สนใจจะออกรถใหม่ ลองหาข้อมูล เปรียบเทียบ และเลือก รถที่ใช่ สำหรับตัวคุณ ดูนะครับ หรือจะไปเดินเล่น งานมอเตอร์โชว์ ปลายเดือนนี้ ดูก่อนก็ได้ครับ
แล้วอย่าลืม เข้าไปกด Like ที่ https://www.facebook.com/iKlickOFF ของเราด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
สวัสดีครับทุกท่าน
หลังจากที่สังเกตการมาทุกวัน ทั้งในเว็บคลับสวิฟท์ ในเฟสสวิฟท์ หรือแม้แต่ใน Pantip และในโลกออนไลน์ทุกกระแส เรื่องราคาของสวิฟท์ใหม่ ที่หลายคน หลายสื่อ หลายกระทู้ บอกว่า จะสูงเกินกว่าที่คิดนั้นทำให้หลายคนจิตตก ยิ่งการออกมาประกาศราคาพร้อมโปรโมชั่นที่คุ้มมากของคู่แข่ง ยิ่งมีผลทางด้านจิตวิทยาและส่งผลต่อความเชื่อมั่น ยิ่งไม่มีข้อมูลเรื่อง ราคาออกมาจากซูเลย นอกจากจะบอกว่า รถจะเปิดตัว 21 มีนาคามนี้ ยิ่งทำให้คนที่อยากรู้ต้อง…รอ….เท่านั้น พอคนอยากรู้ราคา แต่ไม่รู้ และต้องรอ ก็จะมีอาการเหมือนเราต้องเข้าคิวนานๆ เพื่อซื้อของที่เราอยากได้นั่นละ คำถาม ก็คือ เมื่อไหร่จะรู้ เมื่อไหร่จะบอก ทำไมไม่บอกมาเลย…จุดนี้หลายคนเริ่มบ่นกันแล้ว สิ่งต่างๆเหล่านี้ ยิ่งทำให้มีกระแสข่าวลือเกิดขึ้นมากมาย ทั้งจากคู่แข่งและการที่หลายๆคนคิดไปเอง ว่าราคาจะเท่านั้น เท่านี้…ทั้งที่ สุดท้าย ก็ไม่มีใครรู้ความจริง!!!!
ในมุมมองของนักการตลาด ผมก็ไม่รู้ว่าซูคิดอะไรอยู่นะครับ แต่การไม่ออกมาทำอะไรเลย พิจารณาได้ 2 กรณี ถ้ามองในด้านดี คือ รอให้ถึงเวลาตามกำหนด ไม่ทำตามกระแสเรียกร้องหรือแรงเสียดทานจากคู่แข่งและการแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรงมาก ขอย้ำว่า อย่าลืมนะครับว่าตลาดอีโค ตอนนี้มีความต้องการสูงมาก มีการแข่งขันสูงมาก ขนาดเจ้าตลาดอย่างมาร์ช ยังยอมเพิ่มออฟชั่นให้เท่าๆสวิฟท์โดยไม่เพิ่มราคาเลย แสดงว่างานนี้ คู่แข่งก็เกรงกลัวการมาของสวิฟท์อยู่เหมือนกัน ไม่งั้นมิราจจะออกโปรแรงขนาดนี้เพื่ออะไร จริงๆแล้ว ในการทำงานนั้น เมื่อทุกอย่างถูกกำหนดไว้เเล้ว วันเปิดตัว วันแถลงข่าว วันส่งมอบรถ ทุกอย่าง ต้องทำตามแผนงานทั้งหมด มองกันง่ายๆ เหมือนงานที่พวกคุณทำนั่นละ ถ้ากำหนดวันนี้ ก็คือวันนี้ … เพราะถ้าเราไม่ทำตามแผนที่กำหนดไว้ ก็จะกระทบกับหลายฝ่ายเลยนะครับ การบริหารจัดการเรื่องธุรกิจรถยนต์ มีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับหลายแผนกมากๆ มองกันง่ายๆ ถ้าเปิดราคามาเร็ว ลูกค้าเห็นแล้วชอบ อยากไปจอง อยากเห็นรถ แต่โชว์รูมยังไม่เสร็จ เซลล์ยังไม่อบรม รถโชว์ก็ยังไม่มี ระบบต่างๆยังรองรับไม่ทัน สุดท้าย เปิดราคาออกมาก่อนก็โดนด่าอยู่ดี ผมเข้าใจความรู้สึกหลายๆท่านนะครับ ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องราคา กับความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผมเข้าใจว่าทุกคนอยากรู้ ราคา กับโปร จะได้เอาไปเปรียบเทียบและตัดสินใจ
ถ้ามองดีๆ โดยวิเคราะห์ตามหลัก 4Ps ตอนนี้ ตัว Product ของ Swift สอบผ่านแล้ว ทุกคนตอนนี้ไม่ได้มองที่ตัวรถ เครื่องยนต์ หรืออัตราการกินน้ำมันแล้ว แต่สนใจที่ Price, Place, Promotion มากกว่า ตอนนี้หลายคนอยากรู้ราคา เพื่อจะได้นำไปเปรียบเทียบกับคู่แข่ง อยากรู้ สถานที่ ที่จะไปซื้อ เพราะตอนนี้หลายคนอยากซื้อ อยากจอง แต่ไม่รู้จะจองที่ไหน ซึ่งหลายๆโชว์รูม ก็กำลังปรับปรุงและก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ส่วนสุดท้ายคือโปรโมชั่น ซึ่งก็ต้องดูว่า ความต้องการของซูคืออะไร ขายได้ตามยอด 10,000 ต่อปี หรืออยากได้มากกว่านั้น ส่วนตัวผมมองว่าการที่ซูตั้งเป้าเเค่นี้ เพราะเค้ารู้ตัวเองดีว่ากำลังการผลิต ทำได้แค่ไหน อย่าลืมนะครับว่า การทำอะไรเกินตัว สุดท้ายก็จะมีแต่เสียหาย ยังไงผมมองว่าซูคงรอความพร้อมของโชว์รูม ความพร้อมของระบบต่างๆ และ กำลังผลิต ที่ตั้งไว้เท่านี้ อย่าลืมนะครับว่า ถึงรถดี แต่ผลิตไม่ทัน คนก็ไม่รอ ยิ่งกำลังการผลิตของซู กับยอดจองตอนนี้ ผมว่า ปาไปหลายเดือนแล้วกว่าจะส่งมอบครบตามยอดจอง….ยังไงผมว่า โปรโมชั่นคงไม่ได้หวือหวาอะไรมากครับ เพราะเค้ารู้ตัวเองว่าผลิตได้เท่านี้ ขายได้เท่านี้ สำหรับปีนี้ เต็มที่แล้วครับคุณลูกค้า ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปกระตุ้นอะไรมาก…. ทีนี้ เรามาดูกันอีกมุมหนึ่ง ว่าการที่ซูปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้ ถ้ามองในมุมไม่ดี อาจคิดได้ว่า ตัวบริษัทเองยังอ่อนเรื่องการตลาด ซึ่งก็เป็นไปได้มาก เพราะอย่าลืมว่าคู่แข่ง ทั้ง นิสสัน มิตซู ฮอนด้า เค้าใหญ่กว่าซูแค่ไหน..ประสบการณ์ด้านการตลาดของซูยังอ่อนมาก ถ้าเทียบกับตัวพ่อตัวแม่ ของบริษัทคู่แข่ง…เท่าที่ผมสังเกต การตลาดของซูที่พาสื่อไปรีวิวรถ ก่อนเปิดราคา นั้นมาถูกทางแล้ว เพราะเค้าเชื่อว่า รถดีจริง ยังไง มันก็ขายได้ แล้วเค้าก็ไม่ได้ตั้งเป้าไว้มากด้วย แค่นี้สบายๆ ส่วนเรื่องราคา ผมว่ามันคงไม่สูงเกินไปหรอกครับ เค้ารู้ว่าราคาไหน ใครรับได้ อย่าลืมนะครับ ว่ามีลูกค้าหลายกลุ่ม บางราคา กลุ่มนี้ซื้อไหว แต่อีกหลุ่มซื้อไม่ไหว เค้าก็มีรุ่นรองลงมาให้นิ ทุกอย่างมีทางเลือกนะครับ อย่าไปเครียดกันมาก
สรุป ความเห็นส่วนตัวของผมกับเรื่องข่าวลือเรื่องราคาและสถานการณ์ตอนนี้ ส่วนตัว ผมมองว่า อยากให้ทุกท่านใช้สติในการเสพข่าวสารต่างๆ ใช้วิจราณญาณในการคิดและถามตัวเองว่า เราชอบสวิฟท์จริงๆหรือเปล่า เราอยากใช้เงินที่หามาได้เพื่อรถคันนี้จริงๆมั้ย ถ้าคำตอบของคุณ คือ ใช่ ผมแนะนำว่า ให้มองข่าวเรื่องสวิฟท์ตอนนี้เป็นเรื่องสนุก อย่าไปเครียดกับมันให้มาก ผมว่า สุดท้ายแล้ว ลองถอยมาสักก้าว อย่าไหลไปตามกระแส ไม่ใช่พอข่าวลือออกมาก็เชื่อ ก็มองสวิฟท์ไม่ดี แล้วหันไปจองรถคู่แข่ง ซึ่งบางทีตัวเองไม่ชอบที่ตัวผลิตภัณฑ์ แต่ชอบที่ราคาและโปร ยังไงลองถามตัวเองนะครับว่า เราซื้อรถ เพราะอะไร ซื้อเพราะชอบอะไรในตัวรถคันนั้น ชอบราคา ชอบโปร ชอบคุณภาพ ชอบดีไซน์ …หลายๆคนมีความคิดไม่เหมือนกันข้อนี้ผมเข้าใจ แต่ที่สำคัญ คือ อย่าเสพข่าวแบบขาดสตินะครับทุกคน ตั้งสติก่อนสตาร์ท แล้วจำไว้ว่า สวิฟท์ จะเปิดตัว รอบสื่อ วันที่ 21 มีนาคม นี้ นะครับ ราคา คงรู้วันที่ 21 มีนาคม นี้ เท่านั้น ครับ สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ ทุกท่านที่ตั้งใจอ่านจนจบ 555 และขอบอกคำเดียวว่า ความจริงเรื่อง ราคา คงต้องรอวันที่ 21 มีนาคม นี้ เท่านั้น เเต่จะรออย่างไร ให้มีความสุข..ก็คิดกันเอาเองนะครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้อง ทุกคน….
ราคา มิราจ Mitsubishi Mirage มาแล้วครับ !!!
หลังจากที่มีข่าวว่า มิราจ Eco Car จากค่ายมิตซูบิชิ จะเปิดตัวในวันที่ 20 มีนาคม นี้ ซึ่ง ชิงตัดหน้าเปิดตัวก่อน ซูซูกิ สวิฟท์ เพียง 1 วัน ( Swift เปิดตัว 21 มีนาคม นี้) ล่าสุด ได้มรการเปิดเผยราคา ในแต่ละรุ่นออกแล้ว แถมงานนี้ มีโปรโมชั่น แถมประกัน ชั้น 1 กับ พรบ. ด้วย งานนี้ มิราจ พร้อมชนทุกค่าย แถม มิตซู ตั้งเป้ายอดขายที่ 2,500 คันต่อเดือน ซะด้วย !!!
ราคา มิราจ Eco-car จาก ค่าย มิตซูบิชิ ครับ
ราคา มิราจ Mitsubishi Mirage รุ่น GLS Ltd. เปิดมาที่ 546,000 บาท
ใน รุ่น GLS LTD CVT ภายในสีดำ กุญแจ KOS ปุ่ม สตาร์ท DVD touch Screen Navigation system แอร์ AUTO เบรค ABS EBD ถุงลมนิรภัยคู่ ล้อแม็ค 165/65R14 วงเลี้ยว4.4 เมตร สปอยเลอร์หลัง ไฟตัดหมอก กระจกข้างพับไฟฟ้า ปรับไฟฟ้า พวงมาลัยยูรีเทน 3ก้าน สปอร์ตกระชับมือ และมี ขอบมาตรวัด,ขอบช่องแอร์ตกแต่งโครมเมียม ครับ
ราคา มิราจ Mitsubishi Mirage รุ่น GLS A/T เปิดมาที่ 506,000 บาท
ใน รุ่น GLS CVT ภายในสีดำ กุญแจ KOS ปุ่มสตาร์ท CD MP3 AUX IN แอร์ หมุนธรรมดา เบรค ABS EBD ถุงลมนิรภัยคู่ ล้อแม็ค 165/65 R14 วงเลี้ยว 4.4 เมตร สปอยเลอร์ ไฟตัดหมอก กระจกข้างพับไฟฟ้า ปรับไฟฟ้า ( จอแสดงผล Multi information display ) พวงมาลัยยูรีเทน 3ก้าน สปอร์ตกระชับมือ ขอบมาตรวัด,ขอบช่องแอร์ตกแต่งโครมเมียม
ราคา มิราจ Mitsubishi Mirage รุ่น GLX A/T เปิดมาที่ 460,000 บาท
ใน รุ่น GLX CVT ภายในสีดำ กุญแจรีโหมด CD MP3 AUX IN แอร์ หมุนธรรมดา เบรค ABS EBD ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ ล้อเหล็ก พร้อมฝาครอบล้อ 165/65 R14 วงเลี้ยว 4.4 เมตร กระจกข้างพับไฟฟ้า ปรับไฟฟ้า ( จอแสดงผล Multi information display )
ราคา มิราจ Mitsubishi Mirage รุ่น GLX M/T เปิดมาที่ 426,000 บาท
ใน รุ่น GLX M/T ภายในสีดำ กุญแจรีโหมด CD MP3 AUX IN แอร์ หมุนธรรมดา เบรค ABS EBD ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ ล้อเหล็ก พร้อมฝาครอบล้อ 165/65 R14 วงเลี้ยว 4.4 เมตร กระจกข้างพับไฟฟ้า ปรับไฟฟ้า ( จอแสดงผล Multi information display )
ราคา มิราจ Mitsubishi Mirage รุ่น GL M/T เปิดมาที่ 380,000 บาท
ใน รุ่น GL กุญแจ ธรรมดา ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ แอร์ หมุนธรรมดา เบรค ABS EBD ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ ล้อเหล็ก ไม่มีฝาครอบล้อ 165/65 R14 วงเลี้ยว 4.4 เมตร กระจกข้างปรับไฟฟ้า ( จอแสดงผล Multi information display )
***ภายใน มิราจจะเป็นสีดำทุกรุ่นนะครับ*** สีมีทั้งหมด 8 สี *** (ถ้าซื้อสีขาวมุก ต้องเพิ่มเงิน 5,000 บาท ด้วยนะครับ)
สี มิราจ Mitsubishi Mirage
Y25 Lemonnade Yellow Metallic (M)
T69 Cerulean Blue Mica (P)
F24 Pop Green Metallic (M)
A02 Eisen Gray Mica (P)
P19 Red Metallic (M)
X08 Pyreness Black Mica (P)
W54 White Pearl (P)
A66 Cool Silver (M)
ข้อมูล Mitsubishi Mirage
เครื่องยนต์ 1.2 L (1,193 cc)
แบบ 3 สูบ DOHC MIVEC 12 Valve
กำลังสูงสุด 57kw (78PS) /6,000 rpm.
แรงบิดสูงสุด 100 N-m (10.2kg-m)/4,000 rpm.
ความจุถังน้ำมัน 35 ลิตร
ใช้น้ำมัน แก๊สโซฮอล์ 91-95 และ E20
*การทดสอบอัตราการบริโภคน้ำมัน เชื้อเพลิงตามมาตรฐาน ยุโรป สามารถทำได้ 22 กม./ ลิตร
น้ำหนักตัวรถ 830-865 kg
ความยาวตลอดคัน 3,710
ระยะฐานล้อ 2,450
ความสูง 1,490
เห็นว่าตอนนี้ มิราจ ออกโปร ส่วนลดเงินสด 10,000 บาท และแถมฟรีประกัน ชั้น 1 พร้อม พรบ. สำหรับช่วงเปิดตัวด้วยนะครับ
ใครที่กำลังดูๆ Eco Car สักคัน ตอนนี้ ก็ลองเอาข้อมูลทั้งหมดนี้ ไปประกอบการตัดสินใจดูนะครับ ส่วนผม ตอนนี้ รอราคาเปิดตัวของสวิฟท์ก่อน แล้วถ้าเรารู้ข้อมูล ราคา สวิฟท์ แล้วจะมารายงานให้ทราบกันต่อไปนะครับ ยังไง ฝากเพื่อนๆ เข้าไปกด Like ที่ https://www.facebook.com/iKlickOFF ให้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ขอขอบคุณ
ข้อมูลอ้างอิงจาก http://www.miragethailandclub.com
KlickOFF Blog. 